Categories
Uncategorized

กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก บูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดมาตรการคืนคะแนนใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภท

ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย

กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก บูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดมาตรการคืนคะแนนใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภท ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย คัดกรองผู้ขับขี่ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ลดการกระทำผิดซ้ำ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายในการป้องกันและรณรงค์ให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืน กรมการขนส่งทางบกขานรับนโยบาย โดยบูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการใช้ระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับขี่ มาดำเนินการบังคับใช้การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ขับรถให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ป้องปรามและลดการกระทำผิดซ้ำ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดให้เริ่มมีการใช้ระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับขี่ ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ในวันที่ 9 มกราคม 2566 โดยจะครอบคลุมใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภท และผู้ได้รับใบอนุญาติขับขี่แต่ละรายจะมีคะแนนทั้งหมด 12 คะแนน หากถูกตัดคะแนนเหลือศูนย์จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน

สำหรับมาตรการคืนคะแนนใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภท ของกรมการขนส่งทางบก ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติ และการกระทำความผิดตามกฎหมายของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลและการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตัดคะแนนมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ และให้ผู้กระทำผิดที่ถูกตัดคะแนนต้องเข้ารับการอบรมและทดสอบ โดยผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ที่มีสิทธิขอเข้ารับการอบรมเพื่อขอคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถ คือ ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถจนเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน และผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่

ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถจนเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน มีสิทธิขอเข้ารับการอบรมเพื่อขอคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถได้ปีละ 2 ครั้ง ตามรอบปีปฏิทิน โดยมีหลักเกณฑ์การอบรมเพื่อขอคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถ ดังนี้ การอบรมครั้งที่ 1 ในรอบปีปฏิทิน มีจำนวนทั้งหมด 3 หลักสูตร คือ หลักสูตรกรณีขอคืนคะแนนไม่เกินจำนวน 12 คะแนน มีระยะเวลาการอบรมไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง หลักสูตรกรณีขอคืนคะแนนไม่เกินจำนวน 9 คะแนน มีระยะเวลาการอบรมไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง และหลักสูตรกรณีขอคืนคะแนนไม่เกินจำนวน 6 คะแนน มีระยะเวลาการอบรมไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง โดยจะได้รับคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถตามจำนวนคะแนนที่ผ่านการอบรมและทดสอบตามหลักสูตร แต่เมื่อรวมคะแนนที่ได้รับคืนมาแล้วจะมีคะแนนรวมไม่เกิน 12 คะแนน การอบรมครั้งที่ 2 เมื่ออบรมครั้งที่ 1 แล้วถูกตัดคะแนนอีกครั้งในรอบปีปฏิทิน มีจำนวนทั้งหมด 1 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรคืนคะแนนกลับมาเป็น 6 คะแนน มีระยะเวลาการอบรมไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง

ส่วนผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ต้องเข้ารับการอบรมหลักสูตรกรณีถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ เพื่อขอคืนคะแนนกลับมาเป็น 12 คะแนน มีระยะเวลาการอบรมไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่ออีกว่า หลักสูตรในการอบรมประกอบด้วย วิชาความรู้พื้นฐาน เช่น สถานการณ์อุบัติเหตุในปัจจุบัน ปัจจัยที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ วิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ถนน และผลกระทบที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมถึงวิชาความรู้ตามข้อหาความผิดที่ผู้เข้ารับการอบรมได้กระทำ เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กำหนดแล้ว ต้องเข้ารับการทดสอบและต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 จึงจะถือว่าผ่านการอบรมและทดสอบ ถ้าไม่ผ่านสามารถแก้ตัวใหม่เป็น ครั้งที่ 2 ในวันเดียวกัน หากยังไม่ผ่านการทดสอบอีกจะออกใบนัดมาทำการทดสอบแก้ตัวใหม่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ เข้ารับการทดสอบครั้งแรกไม่ผ่าน เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ผ่านการอบรมและการทดสอบแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะแจ้งผลการอบรมและการทดสอบ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการคืนคะแนนต่อไป โดยผู้ประสงค์เข้ารับการอบรมและทดสอบ เพื่อขอคืนคะแนน สามารถแจ้งความประสงค์พร้อมหลักฐานใบอนุญาตขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชน ณ กรมการขนส่งทางบก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (อาคาร 8 หรือ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4 หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวในที่สุด